การกลับมาของภาพยนตร์สุดระทึกขวัญที่สร้างชื่อเสียงในปี 2002 ด้วยการสำรวจเรื่องราวของการระบาดของไวรัสที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นสัตว์ร้าย แต่ในภาคนี้ผู้ชมจะได้ ดูหนัง ที่สัมผัสอารมณ์ความตึงเครียดและความหวาดกลัวถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น กำกับโดย แดนนี่ บอยล์ เขียนบทโดย อเล็กซ์ การ์แลนด์ เมื่อโลกหลังการระบาดของไวรัสได้กลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง, ความสูญเสีย, และการดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดในโลกที่แทบจะไม่เหลือมนุษย์คนเดิมอยู่เลย ในภาคนี้ 28 Years Later 28 ปีให้หลัง เชื้อเขมือบคน ไม่เพียงแต่กลับมาในรูปแบบของการเอาชีวิตรอดจากเชื้อไวรัส แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของสังคมและมนุษย์ที่ตกอยู่ในสภาพที่ยากลำบากอย่างที่สุด ความเชื่อ, ความหวัง, และความเศร้าโศก ถูกถ่ายทอดผ่านการเดินทางของตัวละครที่พยายามค้นหาความหมายของชีวิตในโลกที่ถูกทำลายไปแล้ว
นักแสดง/นำแสดงโดย
- โจดี้ โคเมอร์ รับบทเป็น อิสลา
- แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน รับบทเป็น เจมี่
- แจ็ค โอคอนเนลล์ รับบทเป็น เซอร์จิมมี่ คริสตัล
- อัลฟี่ วิลเลียมส์ รับบทเป็น สไปก์
- ราล์ฟ ไฟนส์ รับบทเป็น ดร. เอียน เคลสัน
- ชี ลูอิส-แพร์รี รับบทเป็น แซมสัน
- คริสโตเฟอร์ ฟูลฟอร์ด รับบทเป็นแซม
- สเตลล่า โกเน็ต รับบทเป็น เจนนี่

อ่านเรื่องย่อของ 28 Years Later 28 ปีให้หลัง เชื้อเขมือบคน
เกือบสามทศวรรษหลังเหตุการณ์ระบาดของเชื้อ Rage Virus ที่แผ่กระจายทั่วโลกใน 28 Days Later ผู้รอดชีวิตบางส่วนได้สร้างชุมชนเล็ก ๆ บนเกาะลินดิสฟอร์น ที่แม้จะห่างไกล แต่ยังถูกล้อมรอบด้วยศัตรูที่ไม่ใช่มนุษย์ สะพานข้ามน้ำขึ้นน้ำลงคือจุดปลอดภัย เพียงแต่การออกนอกชุมชนนั้นยังคงอันตราย

เจมี่ และลูกชายวัย 12 ปี สไปค์ เข้าร่วมพิธีเอาชีวิตรอดครั้งแรกโดยพาคุณแม่ ไอลา ออกสำรวจฝั่งแผ่นดินใหญ่ เป้าหมายเดียวคือนักวิทยาศาสตร์หรือแพทย์ที่อาจช่วยรักษาเธอ ขณะเดินทางกลับ สไปค์ได้ฆ่า “infected” ตัวจริงครั้งแรก ซึ่งสะท้อนวุฒิภาวะและความป่าเถื่อนที่เด็กคนเดียวต้องเผชิญ พวกเขาตกหลุมพรางถูกซุ่มโจมตีโดยฝูง infected แบบ “Alpha” ซึ่งพัฒนามีความแข็งแกร่งและฉลาดขึ้น นำไปสู่ฉากหนีตายที่สะเทือนใจหลากระดับ

ดูหนัง รีวิวหนัง 28 Years Later 28 ปีให้หลัง เชื้อเขมือบคน
การตั้งตารอของแฟนๆ ที่เฝ้าคอยการกลับมาของจักรวาลหลังการระบาดของไวรัสที่สร้างความตื่นเต้นและหวาดกลัวในสองภาคก่อนหน้านี้ ซึ่งในภาคนี้ภาพยนตร์ได้พัฒนาเนื้อหาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยนำเสนอทั้งในมุมมองของความระทึกขวัญ, การดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด และการตั้งคำถามถึงมนุษยธรรมในโลกที่เสื่อมสลาย แดนนี่ บอยล์กลับมารับหน้าที่กำกับอีกครั้งใน “28 Years Later” หลังจากประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ใน “28 Days Later” และ “28 Weeks Later” การกำกับของเขาในภาคนี้ยังคงรักษาสไตล์ที่คุ้นเคยจากภาคก่อนๆ โดยเฉพาะการใช้มุมกล้องที่ไม่ธรรมดา การตัดต่อที่รวดเร็ว และการสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดได้อย่างดีเยี่ยม บอยล์ใช้วิธีการสร้างความรู้สึกกลัวและเครียดผ่านการบีบคั้นอารมณ์ ทำให้การ ดูหนัง เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาฉากสยองขวัญที่ซ้ำซาก แต่กลับให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวละครและโลกที่ถูกทำลายจากไวรัส รวมถึงการสร้างบรรยากาศในสถานที่ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความมืดมนและการสังหารที่ไม่คาดคิด

การใช้ฉากโล่งๆ และมุมกล้องที่มองเห็นการเคลื่อนไหวของฝูงคนที่ติดเชื้อทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดและระทึกขวัญ 28 Years Later 28 ปีให้หลัง เชื้อเขมือบคน ถือเป็นการขยายจักรวาลจากภาคก่อนโดยการนำเสนอโครงเรื่องที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวของการเอาชีวิตรอดจากเชื้อไวรัสที่ฆ่าคน แต่ยังขยายไปถึงการศึกษาความแตกต่างระหว่างมนุษย์ที่ยังคงรักษาความเป็นมนุษย์ในโลกที่เต็มไปด้วยความหายนะและความสูญเสีย บทภาพยนตร์เน้นการสะท้อนความเป็นมนุษย์ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด เมื่อคนต้องตัดสินใจในสถานการณ์ที่ไม่สามารถหาทางออกได้ ภาพยนตร์ใช้การถ่ายทำที่เน้นความแปลกใหม่ โดยมีการใช้มุมกล้องที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความปั่นป่วนในโลกที่ไม่มั่นคง บางฉากใช้ภาพทิวทัศน์ที่ร้างเงียบและมืดมิดเพื่อเพิ่มความตึงเครียดให้กับเรื่องราวได้อย่างดีเยี่ยม การออกแบบฉากที่ล่มสลายของเมืองและโลกที่เต็มไปด้วยความแห้งแล้งมีความสมจริงและมีเสน่ห์ในตัวเอง บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความมืดมนทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความยากลำบากที่มนุษย์ต้องเผชิญ

Leave a Reply