เมื่อแฟน ไซไฟ และผู้ภักดีของแฟรนไชส์ Tron ได้รอคอยมานานกว่า 15 ปี หลังจาก Tron: Legacy ในปี 2010 มาเปิดฉากใหม่อีกครั้งใน Tron: Ares (2025) ด้วย จาเร็ด เลโต ในบท “แอริส” โปรแกรมอัจฉริยะที่ถูกส่งจากโลกดิจิทัลมายังโลกจริง ดูหนัง ที่จะพาเราไปพบกับภารกิจสุดอันตรายที่อาจเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และ AI อย่างสิ้นเชิง ภาพ สีเนออนอันคุ้นเคยแผ่กระจายทั่วทั้งจอ พร้อมเสียงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์สุดเข้มข้นจาก ไนน์อินช์เนลส์ ที่มาเติมพลังให้โลก “Grid” และโลกแห่งความจริงผสานกันอย่างระทึกใจ จากการเปิดตัวของผู้กำกับ โยอาคิม รอนนิ่ง ที่ประกาศว่าจะพา TRON โลกไปสู่อีก “ระดับใหม่” อย่างแท้จริง ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นภาคต่อ แต่เป็นการเดินหน้าด้วยความทะเยอทะยาน ทั้งด้านเทคนิค ทั้งภาพ และจังหวะของเรื่องราว
นักแสดง/นำแสดงโดย
- จาเร็ด เลโต รับบทเป็น แอริส
- เกรตา ลี รับบทเป็น อีฟ คิม
- อีวาน ปีเตอร์ส รับบทเป็น จูเลียน ดิลลิงเจอร์
- โจดี้ เทิร์นเนอร์-สมิธ รับบทเป็น เอเธน่า
- ฮัสซัน มินฮาจ รับบทเป็น อเจย์ ซิงห์
- อาร์ตูโร คาสโตร รับบทเป็น เซธ ฟลอเรส
- จิลเลียน แอนเดอร์สัน รับบทเป็น เอลิซาเบธ ดิลลิงเจอร์
- เจฟฟ์ บริดเจส รับบทเป็น เควิน ฟลินน์

อ่านเรื่องย่อของ Tron: Ares (2025)
หนังเริ่มขึ้นเมื่อกว่า 15 ปีหลังจากเหตุการณ์ของ TRON: Legacy บริษัทใหญ่สองแห่งคือ ENCOM และ Dillinger Systems นำโดย จูเลียน หลานชายของเอ็ด ดิลลิงเจอร์ กำลังแข่งขันกันพัฒนาเทคโนโลยีที่นำคอนสตรัคท์ดิจิทัล (โปรแกรมจากโลกเสมือน) เข้ามาสู่โลกจริงได้ ฝั่ง ENCOM ซีอีโอคนใหม่ อีฟ คิม และทีมของเธอค้นพบสถานีวิจัยลับของเควิน ฟลินน์ ที่อยู่ในอลาสก้า ซึ่งเก็บโค้ดความคงอยู่ ที่ถูกสร้างไว้เพื่อสลายข้อจำกัดว่าโปรแกรมจะอยู่ในโลกจริงได้นานแค่ 29 นาทีเท่านั้น

ฝั่ง Dillinger Systems เปิดตัว AI โปรแกรมขั้นสูงชื่อ แอริส ซึ่งถูกส่งจากโลกดิจิทัลมายังโลกมนุษย์ เพื่อปฏิบัติภารกิจเฉพาะ แต่แอริสเริ่มมีสติสัมปชัญญะและตั้งคำถามกับชะตากรรมของตัวเองเมื่อต้องเจอ โลกจริงที่มีฝน มีแสงไฟ มีชีวิตที่ไม่ใช่แค่โค้ด จูเลียนต้องการได้โค้ดความคงอยู่เพื่อให้โปรแกรมสามารถอยู่ในโลกจริงได้ถาวร ขณะเดียวกัน อีฟก็ต้องปกป้องโค้ดนั้นจากการถูกใช้เพื่อประโยชน์ทางทหารหรือทางลบ

ดูหนัง รีวิวหนัง Tron: Ares (2025)
ผลงานไซไฟที่ตั้งใจจะฟื้นคืนชีพตำนานดิจิทัลให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในยุคที่โลกเริ่มตั้งคำถามกับ AI และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยีอย่างจริงจัง แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นทั้งก้าวกระโดดทางภาพ และการสะดุดในเชิงอารมณ์ ในเวลาเดียวกัน เนื้อหาของ Tron: Ares (2025) เล่าถึงโปรแกรมขั้นสูงชื่อ “แอริส” (นำแสดงโดย จาเร็ด เลโต) ที่ถูกส่งออกจากโลกดิจิทัลเข้าสู่โลกจริง เพื่อทำภารกิจที่อาจพลิกความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้น อย่าง AI ให้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล แม้แนวคิดจะน่าสนใจและร่วมสมัยอย่างยิ่ง แต่โครงเรื่องกลับเดินอยู่ในเส้นทางที่ปลอดภัยเกินไป สำหรับแฟรนไชส์ที่เคยท้าทายขอบเขตความเป็นจริงแบบ Tron ดั้งเดิม บทหนังพยายามผสมปรัชญาเรื่องการดำรงอยู่ของสติปัญญาเทียมเข้ากับการค้นหาความหมายของมนุษย์ แต่กลับไม่ลึกพอจะสร้างความสะเทือนใจในระดับเดียวกับหนังไซไฟคลาสสิก เช่น Blade Runner หรือ Her บางช่วงของหนังยังมีการอธิบายแนวคิดเทคโนโลยีที่ซับซ้อนมากเกินจำเป็น ทำให้จังหวะเรื่องช้าลง และทำให้คน ดูหนัง หลุดจากอารมณ์การผจญภัยในโลกดิจิทัลไปบ้าง จาเร็ด เลโต ถ่ายทอดบท “แอริส” ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยน้ำเสียงที่นิ่งลึกและแววตาที่แฝงความเศร้า เขาทำให้ตัวละครโปรแกรมดิจิทัลดูมีความเป็นมนุษย์มากกว่าหลายตัวละครในโลกจริง การตีความของเขาทำให้ Ares กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “สิ่งสร้างที่กำลังหาความหมายของการมีชีวิต” ได้อย่างมีพลัง อย่างไรก็ตาม นักแสดงสมทบอย่าง เกรตา ลี และอีวาน ปีเตอร์ส และ ถูกใช้ศักยภาพไม่เต็มที่ บทของพวกเขาดูเหมือนจะถูกจำกัดอยู่ในบทสนทนาเชิงอธิบายมากกว่าการขับเคลื่อนอารมณ์หรือเนื้อเรื่อง

Leave a Reply