ในวันที่มนุษย์มองขึ้นฟ้าและพบว่าพวกเขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยวในจักรวาล โลกไม่แตกตื่นเพราะเสียงระเบิด หากแต่เงียบสงัดและเต็มไปด้วยคำถาม ผลงานกำกับของ เดนิส วิลเนิฟ เขียนบทโดย เอริค ไฮสเซอเรอร์ เรื่องนี้วางรากฐานบนแนวไซไฟปรัชญา ดูหนัง ที่มีการผสานกับการเล่าเรื่องอันแยบยลและโทนภาพที่สะเทือนอารมณ์ Arrival ผู้มาเยือน นำเสนอผ่านสายตาของหลุยส์ แบงค์ส นักภาษาศาสตร์ที่ถูกเลือกให้แปลภาษาของสิ่งมีชีวิตนอกโลก กับภารกิจที่ไม่ได้ต้องการแค่ความเข้าใจ แต่มันอาจเปลี่ยนมุมมองที่เรามีต่อเวลา และชีวิตไปตลอดกาล
นักแสดง/นำแสดงโดย
- เอมี่ อดัมส์ รับบทเป็น หลุยส์ แบงก์ส
- เจเรมี่ เรนเนอร์ รับบทเป็น เอียน ดอนเนลลี
- ฟอเรสต์ ไวเทเกอร์ รับบทเป็น พันเอกจีที เวเบอร์
- ไมเคิล สตูห์ลบาร์ก รับบทเป็น เอเจนต์ฮาลเพิร์น
- มาร์ค โอไบรอัน รับบทเป็น กัปตันมาร์คส์
- จื่อหม่า รับบทเป็น นายพลซ่าง

อ่านเรื่องย่อของ Arrival ผู้มาเยือน
ดร.ลูอิส แบงค์ส นักภาษาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง เธอเคยสูญเสียลูกสาวไปด้วยโรคร้าย ทำให้เธอมีบุคลิกที่ดูเศร้าและโดดเดี่ยว วันหนึ่ง โลกเกิดเหตุการณ์ “การมาเยือน” ของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว เมื่อมี ยานลึกลับ 12 ลำ ปรากฏขึ้นทั่วโลก โดยหนึ่งในนั้นลงจอดที่รัฐมอนทานา สหรัฐฯ รัฐบาลสหรัฐฯ นำโดย พันเอกเวเบอร์ จึงขอให้ลูอิสช่วยตีความ ภาษาของมนุษย์ต่างดาว เพื่อสื่อสารกับพวกเขา นอกจากนี้ เธอยังได้ร่วมงานกับ เอียน ดอนเนลลี นักฟิสิกส์ผู้เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีเวลา

เมื่อทีมของลูอิสเข้าไปใกล้ยานลึกลับ พวกเขาได้พบกับ “เฮปตาพอด” ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายปลาหมึกสูง 7 ขา เฮปตาพอดสองตนที่ลูอิสตั้งชื่อว่า “แอบบ็อต” และ “คอสเตลโล” สื่อสารโดยใช้ภาษาที่แปลกประหลาด มันไม่ได้เป็นคำพูด แต่เป็น สัญลักษณ์วงกลมหมึกดำ ที่พวกมันพ่นออกมา ลูอิสพยายามศึกษาและถอดรหัสสัญลักษณ์เหล่านี้ โดยมีเอียนช่วยวิเคราะห์ด้านวิทยาศาสตร์ เมื่อเวลาผ่านไป ลูอิสเริ่มเข้าใจว่า ภาษาของเฮปตาพอดไม่ได้เป็นเชิงเส้นเหมือนมนุษย์ แต่มันเป็นแบบไร้กาลเวลา ก็คือ พวกมันสามารถรับรู้อนาคตและอดีตได้พร้อมกัน

ดูหนัง รีวิวหนัง Arrival ผู้มาเยือน
เดนิส วิลเนิฟ ผู้กำกับสายลุ่มลึกจาก Prisoners และ Sicario กลับมาสร้างผลงานไซไฟในแบบที่ไม่พึ่งพาฉากแอ็คชั่น แต่เน้นไปที่ความเงียบ ความเวิ้งว้าง และจังหวะของอารมณ์ เขาใช้เวลาเล่าเรื่องอย่างช้าแต่มั่นคง เสมือนบทกวีภาพเคลื่อนไหว ที่ค่อย ๆ สะสมความรู้สึกจนระเบิดเป็นคำถามใหญ่ในตอนจบ บทภาพยนตร์โดย เอริค ไฮสเซอเรอร์ ดัดแปลงจากเรื่องสั้น Story of Your Life โดย Ted Chiang ได้อย่างงดงาม นี่ไม่ใช่แค่การ ดูหนัง ไซไฟเพื่อขายแนวคิดล้ำ ๆ เท่านั้น แต่คือบทที่ผสมความเป็นมนุษย์และอารมณ์ไว้อย่างลึกซึ้ง โครงสร้างบทมีการสลับไปมาระหว่างปัจจุบัน”และอนาคตอย่างชาญฉลาด โดยที่คนดูจะไม่เข้าใจว่ากำลังเห็นอะไร จนถึงจุดหักมุม ซึ่งเป็นการพลิกมุมมอง “เรื่องเวลา” ได้อย่างทรงพลังมากที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบทศวรรษ

เอมี่ อดัมส์ คือหัวใจของเรื่องนี้ เธอถ่ายทอด ในบทบาทหลุยส์ แบงค์ส นักภาษาศาสตร์ที่เต็มไปด้วยความเงียบขรึม ความเจ็บปวด และความเฉลียวฉลาดได้อย่างมีมิติ บทพูดของเธอน้อยมาก แต่น้ำเสียง แววตา และภาษากายสามารถบอกเล่าอารมณ์ได้ทั้งหมด เจเรมี่ เรนเนอร์ และฟอเรสต์ ไวเทเกอร์ เสริมภาพให้เรื่องมีน้ำหนักในมิติทางวิทยาศาสตร์และการเมือง แต่อยู่ในสเกลที่ไม่กลบพลังของตัวเอกหญิง หนังเล่าเรื่องด้วยจังหวะช้า ลุ่มลึก อาจไม่ถูกใจคนที่คาดหวังความตื่นเต้นทันที แต่สำหรับผู้ชมที่ชอบการสำรวจแนวคิด การตีความ และอารมณ์สะสม หนังเรื่องนี้ถือเป็นผลงานที่ถ่ายทอดจังหวะและเรื่องราวได้อย่างเฉียบแหลม และปล่อยความเข้าใจให้งอกขึ้นในใจเราอย่างช้าๆ
Leave a Reply