รีวิว King Arthur: Legend of the Sword ศึกช่วงชิงอำนาจสายเลือด 

เรื่องราวของคิง อาร์เธอร์ ที่มีการนำมาดัดแปลงสร้างมาแล้วหลากหลายเวอร์ชั่น หนังสงครามที่มีการหยิบมาทำครั้งแรกในปี 2004 ถ้าใครที่เคย ดูหนัง ในตอนนั้นเป็นผลงานการกำกับของ อังตวน ฟูกัว โดยในปี 2017 ก็ได้มีนำปล่อย King Arthur: Legend of the Sword คิง อาร์เธอร์ ตำนานแห่งดาบราชันย์ ที่กำกับโดย กาย ริทชี่ เรื่องแอ็คชั่นต้องยกให้เขาและยังเขียนบทร่วมกับ โจบี้ แฮโรลด์ และไลโอเนล วิแกรม จากเรื่องราวของ เดวิด ด็อบกิน และโจบี้ แฮโรลด์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานกษัตริย์อาเธอร์

นักแสดง/นำแสดงโดย

• ชาร์ลี ฮันแนม รับบทเป็น กษัตริย์อาเธอร์
• ดิจิมอน ฮาวน์ซู รับบทเป็น เซอร์เบดิเวียร์
• จู๊ด ลอว์ รับบทเป็น วอร์ติเกิร์น
• เอริก บาน่า รับบทเป็น ยูเธอร์ เพนดรากอน
• เอแดน กิลเลน รับบทเป็น กูสแฟต บิล
• แอนนาเบลล์ วอลลิส รับบทเป็น แม็กกี้

อ่านเรื่องย่อของ King Arthur: Legend of the Sword คิง อาร์เธอร์ ตำนานแห่งดาบราชันย์

มอร์เดรดพ่อมดและกองทัพได้เข้าปิดล้อมคาเมล็อต อูเธอร์ กษัตริย์แห่งเมืองได้อลบเข้าไปในที่ซ่อนของพ่อมดและตัดหัวของพ่อมดด้วยดาบพิเศษ แม้ว่าศึกครั้งนี้จะได้รับชัยชนะ แต่ก็ต้องมาถูกวอร์ติเกิร์น น้องชายของอูเธอร์ ที่มีความโลภอยากครองบัลลังก์ เขาวางแผนก่อก่อกบฏ ทำให้อูเเธอร์สิ้นพระชนม์ และอาร์เธอร์ รัชทายาทที่ต้องพลัดพรากจากเมืองไปอยู่ในซ่องของโสเภณีจนลืมชาติกำเนิดของตัวเอง อาเธอร์จึงกลายเป็นหัวหน้าแก๊งอาชญากรที่เก่งกาจและฉลาดบนถนน อย่างไรก็ตาม เขาถูกหลอกหลอนด้วยฝันร้ายในคืนที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตโดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนโจมตีพวกเขา

วอร์ติเกิร์นปกครองอังกฤษอย่างโหดร้ายและทุ่มทรัพยากรไปกับการสร้างหอคอยใกล้ปราสาท เมื่อระดับน้ำรอบปราสาทลดลงจนเผยให้เห็นดาบในก้อนหิน เขาจึงสั่งให้คนในเมืองทั้งหมดไปที่หอคอยเพื่อพยายามดึงดาบออกมา ตามคำทำนาย ถ้าใครเป็นรัชทายาทตัวจริง จะสามารถดึงดาบออกมาได้ วอร์ติเกิร์น ระแวงว่าจะถูกล้างแค้น อาร์เธอร์สามารถดึงดาบออกมาได้ วอร์ติเกิร์น รู้ทันทีว่านี่คือหลานของตน จึงคิดวางแผนประหารชีวิต ส่วนอาร์เธอร์ก็รู้ถึงชาติกำเนิดของตัวเอง จึงคิดจะล้างแค้นเพื่อทวงบัลลังก์คืน 

ดูหนัง รีวิวหนัง King Arthur: Legend of the Sword คิง อาร์เธอร์ ตำนานแห่งดาบราชันย์

ในเวอร์ชั่นนี้ที่ได้ผู้กำกับ กาย ริทชี่ ถือว่าเป็นฉบับที่สนุกที่สุดเท่าที่เคยมีการผลิตหนังออกมา เพราะด้วยที่เขาขึ้นแท่นผู้กำกับสายบู๊แอ็คชั่น จึงวางใจว่าเนื้อเรื่องและบทบาทที่ตัวละครได้รับจะต้องออกมามันส์ เร้าใจ โดยจะเกริ่นนำว่าแผนดินถูกช่วงชิงอำนาจ เป็นปมที่ทำให้กษัตริย์อาร์เธอร์ต้องกลับมาแก้แค้นและทวงบัลลังก์ที่เป็นของเขาโดยชอบธรรมคืน และยังมีเรื่องราวของเวทมนตร์ปีศาจเอามาร่วมด้วย ทำให้กลายเป็นหนังสงครามแอ็คชั่นผสมแฟนตาซี การตัดต่อ ฉากสโลวโมชั่นทำออกมาได้สมจริงและเนียนมาก เพลงประกอบฉากสงครามก็ใส่เข้ามาได้เข้ากับบรรยากาศที่เป็นยุคสมัยก่อน ทำให้กองทัพดูฮึกเหิม King Arthur: Legend of the Sword คิง อาร์เธอร์ ตำนานแห่งดาบราชันย์ การคัดเลือกนักแสดง โดยแต่ละบทบาทที่ได้รับ สื่อออกมาได้เข้าถึงบทและอารมณ์ตังละครอย่างลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมที่ได้ ดูหนัง เรื่องนี้รู้สึกอินไปกับบรรยากาศการเล่าเรื่อง และยังอธิบายเนื้อเรื่องออกมาได้เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ตรงไปตรงมา และโทนสีภาพที่ดูเป็นยุคก่อนจริงๆ เป็นหนังคุณภาพดีอีกเรื่องที่ดูมีเสน่ห์ข้ามยุคข้ามสมัย