หนึ่งในผลงานระดับตำนานของวงการภาพยนตร์สยองขวัญ โดยเฉพาะสายแวมไพร์ ซึ่งมีการสร้างอยู่หลายเวอร์ชันในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา แต่เวอร์ชันที่โด่งดังที่สุดคือ Nosferatu (1922) ผลงานของผู้กำกับ F.W. Murnau ซึ่งเป็นภาพยนตร์เงียบแนว German Expressionism ดูหนัง ที่ทั้งหลอน ลึกลับ และมีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อหนังแวมไพร์ยุคถัดมา ในปี 2024 Nosferatu นอสเฟอราตู เขียนบทและกำกับโดย โรเบิร์ต เอ็กเกอร์ส เป็นการสร้างใหม่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยาย Dracula (1897) ของ Bram Stoker การพัฒนาหนังเรื่องนี้ได้เริ่มขึ้นในปี 2015 เมื่อเอ็กเกอร์สวางแผนที่จะสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของเขา เขาอธิบายว่าเป็นโครงการที่เกิดจากความหลงใหล แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเลื่อนการผลิตออกไป สการ์สการ์ดและเดปป์ได้รับเลือกให้รับบทนำในเดือนกันยายน 2022 การถ่ายทำเกิดขึ้นที่ Barrandov Studios ในกรุงปรากเป็นหลัก ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม 2023
นักแสดง/นำแสดงโดย
- ลิลี่-โรส เดปป์ รับบทเป็น เอลเลน ฮัตเตอร์
- นิโคลัส โฮลต์ รับบทเป็น โทมัส ฮัตเตอร์
- บิล สการ์สการ์ด รับบทเป็น เคานต์ออร์ล็อก
- แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน รับบทเป็น ฟรีดริช ฮาร์ดิง
- วิลเล็ม เดโฟ รับบทเป็น ศาสตราจารย์อัลบิน เอเบอร์ฮาร์ต ฟอน ฟรานซ์
- เอ็มม่า คอร์ ริน รับบทเป็น แอนนา ฮาร์ดิง

อ่านเรื่องย่อของ Nosferatu นอสเฟอราตู
เรื่องราวเริ่มต้นในปี 1838 ที่เมืองวิสบูร์ก ประเทศเยอรมนี เอลเลน ฮัตเตอร์ หญิงสาวที่มีความฝันและความรู้สึกโดดเดี่ยว ได้อธิษฐานขอให้มีบางสิ่งมาช่วยเติมเต็มความว่างเปล่าในชีวิตของเธอ คำอธิษฐานนั้นปลุก เคานต์ออร์ล็อก แวมไพร์โบราณจากการหลับใหล โทมัส ฮัตเตอร์ สามีของเอลเลน ได้รับมอบหมายจากนายจ้างให้เดินทางไปยังทรานซิลเวเนียเพื่อปิดการขายที่ดินกับเคานต์ออร์ล็อก ที่ต้องการซื้อคฤหาสน์ในวิสบูร์ก ระหว่างการเดินทาง โทมัสพบกับเหตุการณ์ประหลาดและคำเตือนจากชาวบ้านเกี่ยวกับออร์ล็อก

เมื่อโทมัสมาถึงปราสาทของออร์ล็อก เขาถูกบังคับให้เซ็นสัญญาขายที่ดิน และพบว่าตัวเองถูกขังอยู่ในปราสาท ขณะเดียวกัน ออร์ล็อกได้เดินทางไปยังวิสบูร์กพร้อมกับหนูที่เป็นพาหะนำโรคระบาด เอลเลนเริ่มมีอาการประหลาด ดร. วิลเฮล์ม ซีเวอร์ส และนักวิทยาศาสตร์ อัลบิน เอเบอร์ฮาร์ต เชื่อว่าเอลเลนตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของแวมไพร์ที่นำโรคระบาดมาสู่เมือง

ดูหนัง รีวิวหนัง Nosferatu นอสเฟอราตู
Robert Eggers ยังคงความเป็นผู้กำกับที่มีลายเซ็นชัดเจนในเรื่องของบรรยากาศ และโทน เขาไม่ได้ทำหนังแวมไพร์ Nosferatu นอสเฟอราตู แต่เลือกจะเล่าเรื่องราวแบบโกธิก และเน้นความรู้สึกอึดอัดมากกว่าความตกใจ ใช้ภาพแทนคำพูดได้ทรงพลัง คุมโทนหม่น หลอน สวยงามในความน่ากลัว ความเงียบในหนัง กลายเป็นอาวุธที่สร้างความหลอนได้อย่างยอดเยี่ยม ดูหนัง ที่ได้เห็นการแสดงของ บิล สการ์สการ์ด ที่แสดงเป็นแวมไพร์ แม้บทพูดจะน้อย แต่เขาสื่อความกลัวได้ด้วยสายตา ท่าทาง และจังหวะการเคลื่อนไหวที่ผิดธรรมชาติ ลิลี่-โรส เดปป์ ถ่ายทอดความเปราะบาง ลึกลับ และความเสียสละของตัวละครได้ดี มีเสน่ห์แบบย้อนยุค นิโคลัส โฮลต์ รับบทชายไร้เดียงสาที่ค่อยๆ ถูกดึงเข้าสู่โลกมืดได้อย่างน่าเชื่อ การถ่ายภาพและมุมกล้อง ผลงานของ Jarin Blaschke เต็มไปด้วยความงดงามแบบมืดหม่น ใช้แสงธรรมชาติกับความมืดอย่างมีชั้นเชิง
Leave a Reply