รีวิว Find Me Falling ล้มลุกแล้วเจอรัก 

เมื่อเสียงเพลงไม่ใช่แค่ท่วงทำนอง แต่คือสะพานเชื่อมใจระหว่างอดีตกับปัจจุบัน Find Me Falling ล้มลุกแล้วเจอรัก คือผลงานโรแมนติกคอมเมดี้จากผู้กำกับและเขียนบทโดย สเตลานา คลีริส ที่ถ่ายทอดบรรยากาศแสนอบอุ่นและภาพงดงามของเกาะไซปรัสได้อย่างละเมียดละไม ดูหนัง เรื่องนี้พาเราสัมผัสความเงียบสงบของธรรมชาติ ตัดกับความวุ่นวายในใจของตัวละคร ผ่านมุมมองของคนที่เคยมีทุกอย่างในชีวิต และต้องเรียนรู้ที่จะค้นหาตัวเองอีกครั้ง ฉายทาง Netflix เสน่ห์ของหนังอยู่ที่การผสมผสานโทนอบอุ่นของภาพ วิวทะเลและหน้าผาที่สวยจนเหมือนภาพวาด เข้ากับบทสนทนาที่มีทั้งความขบขันและความลึกซึ้ง

นักแสดง/นำแสดงโดย

• แฮร์รี่ คอนนิค จูเนียร์ รับบทเป็น จอห์น
• อัคนี สก็อตต์ รับบทเป็น เซีย
• อาลี ฟูมิโกะ วิทนีย์ รับบทเป็น เมลิน่า
• โทนี่ เดเมตริอู รับบทเป็น กัปตันมาโนลี
• แองเจลิกิ ฟิลิปปิดู รับบทเป็น มาริคู
• ลีอา มาเลนี รับบทเป็น คูลา

อ่านเรื่องย่อของ Find Me Falling ล้มลุกแล้วเจอรัก 

เรื่องราวของจอห์น ออลแมน ร็อคสตาร์ชาวอเมริกัน หลังจากที่อัลบั้มล่าสุดของเขาเกิดความล้มเหลว เพราะความนิยมสำหรับเขาในตอนนั้นลดลงด้วย เขาจึงตัดสินใจหยุดพักชั่วคราว และซื้อบ้านห่างไกลใกล้หน้าผาในไซปรัส ไม่กี่วันต่อมา เขาตะโกนใส่ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าบ้านของเขาที่ริมหน้าผา โดยเชื่อว่าเขาเป็นปาปารัสซี่ที่บุกรุกเข้ามา เขาตกใจมากเมื่อชายคนนั้นกระโดดลงมาเสียชีวิต ร้อยตำรวจเอกมาโนลีมาที่เกิดเหตุและอธิบายว่าหน้าผาแห่งนี้เป็นจุดที่ผู้คนนิยมมาจบชีวิตกัน ทำให้จอห์นเข้าใจเหตุผลว่าทำไมราคาบ้านที่ขายถึงมีราคาถูก มาโนลีได้เตือนเขาว่าสถานที่ตรงนี้อาจจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ได้ถึงเดือนละครั้งหรืออาจจะมากกว่านั้น

จอห์นเข้าเมืองไปเพื่อซื้ออาหารและขอให้มาส่งที่บ้าน เมื่อเขาบอกกับเจ้าของร้านว่าใก้มาส่งที่บ้าน ก็ทำให้เกิดความประหลาดใจว่าทำไมจอห์นถึงกล้าไปอาศัยอยู่ตรงนั้น วันรุ่งขึ้น เมลิน่านำอาหารของจอห์นมาส่ง เธอจำเขาได้ว่าคือร็อคสตาร์รุ่นใหญ่ จอห์นเชิญเมลิน่าเข้าไปในบ้าน และเขาอธิบายว่าเขาย้ายมาอยู่ที่นี่เพื่อปลีกชีวิตออกมา ต่อมาเขาโทรหาจิมมี่ ผู้จัดการของเขาเพื่อเปิดเผยว่าเขาอยู่ที่ไหน หลังจากที่หนีมาพักผ่อนโดยที่ไม่บอกใคร ชีวิตที่ต้องการความสงบถูกพังทลายลง และเปลวไฟรักเก่าก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง

ดูหนัง รีวิวหนัง Find Me Falling ล้มลุกแล้วเจอรัก 

บทมีความเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยชั้นเชิง เน้นความสัมพันธ์ของตัวละครมากกว่าพลอตดราม่าใหญ่ๆ บทสนทนาหลายช่วงมีน้ำหนักและให้แง่คิด แม้บางตอนจะรู้สึกว่าช้าไปบ้าง แต่ก็ทำให้คนดูอินกับการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร สเตลานา คลีริส กำกับได้อย่างอบอุ่นและมีเสน่ห์มาก โทนหนังนิ่ง ละเมียด และใช้เวลาเล่าเรื่องแบบปล่อยให้ผู้ชม “ซึมซับ” แทนที่จะเร่งเร้า จุดนี้อาจไม่ถูกใจคนที่ชอบจังหวะเร็ว แต่ถ้าชอบหนังที่ค่อยๆ เปิดใจ คุณจะหลงรัก แฮร์รี คอนนิก จูเนียร์ ถ่ายทอดตัวละครนักดนตรีที่กำลังค้นหาตัวตนได้อย่างมีชีวิตชีวาและเป็นธรรมชาติ เคมีระหว่างเขากับนักแสดงสมทบมีความน่ารักและดูจริงใจ นักแสดงท้องถิ่นก็ช่วยเพิ่มความสมจริงของบรรยากาศในเกาะ เพลงประกอบมีความสำคัญมากในหนังเรื่องนี้ ทั้งเพลงที่ตัวละครเล่นและซาวด์ประกอบที่ไหลลื่นไปกับอารมณ์ ดนตรีช่วยเพิ่มความละมุนและความอบอุ่นให้แต่ละซีน จนบางช่วงรู้สึกเหมือนนั่งฟังคอนเสิร์ตเล็กๆ ริมทะเล งานภาพ คือจุดขายอันดับหนึ่ง ภาพทิวทัศน์เกาะไซปรัสสวยจนแทบจะหยุดหายใจ ทั้งมุมกว้างของทะเล แสงพระอาทิตย์ตก และสีสันของหมู่บ้านริมผา ทุกช็อตเหมือนโปสการ์ดที่มีชีวิต การจัดแสงก็เน้นโทนอุ่นทำให้หนังรู้สึกสบายตา